เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [54. กัจจายนวรรค] 8. อุรุเวลกัสสปเถราปทาน
[262] ครั้งนั้น พระศาสดาผู้มีพระสุรเสียงก้อง
เหมือนเสียงคชสารคำราม
มีพระสำเนียงไพเราะเหมือนเสียงนกการเวก
ได้ตรัสกับบริษัทว่า ‘จงดูพราหมณ์นี้
[263] ผู้มีผิวพรรณดุจทองคำ แขนใหญ่
ปากและดวงตาเหมือนดอกปทุม
มีโลมชาติชูชันและมีใจฟูขึ้น ร่าเริงมีศรัทธาในคุณของเรา
[264] เขาปรารถนาตำแหน่งภิกษุผู้มีเสียงเหมือนราชสีห์
ในอนาคตกาล เขาจักได้ตำแหน่งนี้สมความปรารถนา
[265] ในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้ไป
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
[266] พราหมณ์นี้จักมีนามว่ากัสสปะ ตามโคตร
เป็นธรรมทายาท เป็นโอรสที่ธรรมเนรมิต
จักเป็นสาวกของพระศาสดาพระองค์นั้น
[267] ในกัปที่ 92 นับจากกัปนี้ไป
ได้มีพระผู้เป็นผู้นำชั้นเลิศของโลกพระนามว่าผุสสะ
ทรงเป็นศาสดาผู้ยอดเยี่ยม หาผู้เปรียบมิได้
ไม่มีใครเสมอเหมือน
[268] พระศาสดาพระนามว่าผุสสะพระองค์นั้นแล
ทรงกำจัดความมืด1 ทั้งปวง ถางรกชัฏใหญ่
ทรงบันดาลฝนคืออมตธรรมให้ตกลง
ให้มนุษย์และทวยเทพอิ่มหนำ

เชิงอรรถ :
1 ความมืด ในที่นี้หมายถึงกิเลสมีราคะ โทสะ และโมหะเป็นต้น (ขุ.อป.อ. 2/268/298)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :274 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [54. กัจจายนวรรค] 8. อุรุเวลกัสสปเถราปทาน
[269] ครั้งนั้น ข้าพเจ้า 3 คนพี่น้อง
ได้เป็นราชอำมาตย์ในกรุงพาราณสี
ล้วนแต่เป็นที่ไว้วางพระทัยของพระราชา
[270] รูปร่างองอาจแกล้วกล้า สมบูรณ์ด้วยพละกำลัง
ไม่พ่ายแพ้ในสงคราม
ครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดินผู้ถูกเจ้าเมืองชายแดนก่อกำเริบ
จึงมีรับสั่งกับพวกข้าพเจ้าว่า
[271] ‘ท่านทั้งหลายจงไปชนบทชายแดน
ปราบปรามขบถของแผ่นดินให้ราบคาบแล้วกลับมา’
และทรงพร่ำสอนว่า ‘พวกท่านบำรุงแว่นแคว้นของเรา
ให้เกษมแล้วจงมอบคืน’
[272] ลำดับนั้น ข้าพเจ้าได้กราบทูลว่า
‘ถ้าพระองค์จะพึงประทานพระผู้ทรงเป็นผู้นำ
เพื่อให้ข้าพระองค์ทั้งหลายอุปัฏฐากบ้าง
พระองค์ทั้งหลายก็จักทำกิจของพระองค์ให้สำเร็จ’
[273] ลำดับนั้น ข้าพเจ้าได้รับพระราชทานพรแล้ว
ถูกพระภูมิบาลส่งไปปราบปรามชายแดนที่กำเริบให้วางอาวุธแล้ว
จึงกลับมายังนครนั้นอีก
[274] ข้าพเจ้าทูลขอการรับอุปัฏฐากพระศาสดาจากพระราชา
ได้พระศาสดาทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก
เป็นพระมุนีผู้ประเสริฐแล้ว ได้บูชาพระองค์จนตลอดชีวิต
[275] ผ้ามีค่ามาก อาหารมีรสเลิศ
เสนาสนะเป็นที่รื่นรมย์และเภสัชที่มีประโยชน์
[276] พวกข้าพเจ้ามีศีล มีกรุณา มีใจประกอบด้วยภาวนา
จึงถวายปัจจัยที่พวกข้าพเจ้าให้เกิดขึ้นโดยธรรม
แด่พระมุนีพร้อมทั้งพระสงฆ์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :275 }